วันศุกร์ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2551

สถานการณ์การเมืองไทยในปัจจุบัน ตอนที่ 1 สวัสดีครับเพื่อนๆในเวปบอร์ดแห่ง Mthai อันที่จริงแล้วผมเองก็ได้ติดตามข่าวการเมืองจากหลายๆสื่อมานานพอสมควรครับ สิ่งที่ผมจะนำเสนอนี้อาจจะไม่ถูกใจใครก็ได้ แต่ว่ามันเป็นความคิดของผม ณ ปัจจุบัน ถ้าใครคิดเห็นอย่างไรช่วยแสดงความคิดเห็นด้วยวาจาสุภาพและมีการศึกษาด้วยนะครับว่ากันเรื่องระบบคุณทักษิณที่ผ่านมาผมเห็นว่าคุณทักษิณทำผลงานให้กับประชาชนตามที่ได้ตั้งนโยบายไว้เกือบทุกประการ อันจะเห็นได้จากผลงานด้านยาเสพติด การปราบปรามผู้มีอิทธิพล การยกหวยใต้ดินมาไว้บนดิน การเร่งพัฒนาเศรษฐกิจ ด้วยการขายกิจการและแปรรูป ปตท จนหนี้สินIMF หมดลง นโยบาย30บาทรักษาทุกโรค กองทุนหมู่บ้านละ1ล้านบาท ฯลฯซึ่งแต่ละนโนบายได้ทำออกมาเป็นรูปธรรมและแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลชุดนี้มีผลงานอย่างต่อเนื่องแต่ว่านโยบายทั้งหมดนี้มันไม่มีความแน่นอนอยุ่หลายอันดังจะเห็นได้จาก30บาทรักษาทุกโรคในตอนแรกๆใช้ได้เกือบทุกโรงพยาบาล ผมคิดว่าคงมีความน่าสนใจไม่น้อยทำให้โรงบาลชั้นนำยอมเข้าร่วมตาม....แต่จะเห็นได้ในปัจจุบันว่า ใช้ได้กับแค่ไม่กี่โรงพยาบาล หากแต่ทั้งบางครั้งใช้กับสาธารณสุขใกล้บ้านยังแทบจะไม่รับแล้ว ซึ่งคาดว่าเป็นผลมาจากการที่สถานพยาบาลต่างๆไม่สามารถรองรับค่าใช้จ่ายเบื้องต้นได้ถัดมาคือการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ ปตท ซึ่งเป็นโครงการใหญ่ที่รัฐบาลได้รับผลประโยชน์หลายอย่าง แต่เสียประโยชน์หลายอย่างเช่นกัน ซึ่งกล่าวกันว่าในตอนแรกรัฐบาลมีหุ้นอยุ่ 75% ปัจจุบันเหลือเพียง 52% อันเนื่องมาจากการขาดทุน (จำนวนเหล่านี้ข้อมูลมาจากตลาดหุ้น ณ วันที่ 24 ธ.ค.48) ซึ่งคาดว่าในอนาคตอันใกล้อาจจะเหลือเพียง 40% และกลายเป็นของเอกชนไปในที่สุดการปราบปรามด้านยาเสพติดที่มีผลงานค่อนข้างชัดเจน แต่ก็ชัดเจนเฉพาะในช่วงที่รัฐบาลต้องการทำหากแต่ปัจจุบัน เฉพาะที่เชียงใหม่บริเวณตลาดธานินทร์ก็ยังมีการเสพยา โดยจ่ายส่วยผ่านกองกำลังผาเมืองและตำรวจ โดยที่ไม่มีการจับกุมแต่อย่างใด ซึ่งแสดงให้เห็นว่าหากรัฐบาลจะปราบปรามก็ทำได้ แต่จะทำได้เฉพาะช่วงที่ต้องการแสดงอำนาจ ถ้าไม่อยากแสดงก็จะกลับมาเหมือนเดิม3 นโยบายที่กล่าวมาข้างต้นเป็นนโยบายที่มีผลงานค่อนข้างชัดเจนกับคนทั้งประเทศ แต่ว่าเป็นเพียงนโยบายเอาหน้าก่อนการเลือกตั้ง 1 ปีซึ่งทำให้การเลือกตั้งครั้งถัดมาทำให้ได้รับเสียงตอบรับจากประชาชนรากหญ้าอย่างมากมาย เพราะประชาชนชอบผู้นำที่มีผลงานชัดเจนแต่ไม่ได้ดูความต่อเนื่องของผลงาน อีกทั้งประชาชนชาวรากหญ้าซึ่งก้อคือ เกษตรกร ชาวสวน ชาวไร่ พวกเขามีความคิดแค่การทำเกษตรกรรมเพื่อดูแลคนในครอบครัว พวกเขาไม่มีเวลามาคิดหรอกว่า วันพรุ่งนี้ทักษิณจะปฏิรูปการเมืองและเศรษฐกิจไปทางไหน ทักษิณจะแก้กฏหมายเอื้อประโยชน์แก่ธุรกิจอย่างไร และไม่มีเวลามานั่งดูทีวีเปิดอินเตอร์เนตติดตามข่าวในกระทู้ต่างๆ ไม่มีเวลาแจ้งสื่อขอแถลงข่าวการโกงกินของบ้านเมือง พวกเขามีหน้าที่ ที่ต้องทำงานปลูกผัก ทำนา ดูแลพืชไร่ เลี้ยงสัตว์ ฯลฯ เพื่อจะมีเงินไว้ใช้ในวันถัดไป และส่งลูกเรียน ซึ่งในที่นี้ต้องการจะบอกว่า การกระจายเม็ดเงินเล็กๆน้อยๆของรัฐบาล(เช่นการลงทุนกู้ยืมหมู่บ้านละ1ล้านบาท)+การลงพื้นที่เข้าไปดูแลประชาชน(เช่นการลงทะเบียนคนจน) เป็นเพียงการแสดงออกถึงน้ำใจที่เล็กน้อยสำหรับนักวิชาการ แต่มันมากมายสำหรับพวกเขาซึ่งไม่เคยมีใครทำมาก่อน ซึ่งทำให้ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศที่เป็นเกษตรกรเลือกคุณทักษิณมาทำหน้าที่ดูแลประเทศ ที่สำคัญคือจำนวนประชาชนในภาคเหนือและภาคอีสานมีจำนวนมากกว่าภาคใต้มาก ดังนั้นฐานเสียงหรือหัวคะแนนในพื้นที่จึงมีมากกว่าแน่นอนการรวบรวมพรรคการเมืองเล็กจนถึงกลางกลางที่มีฐานเสียงในแต่ละเขตมาอยุ่ในพรรคไทยรักไทย ทำให้พรรคไทยรักไทยได้เปรียบด้านจำนวน ส.ส. และ ประชาชน เพราะคนส่วนมากเลือก ส.ส. มาจากผลงานในพื้นที่ ไม่ได้เลือกมาจากนายกฯรัฐมนตรีโดยตรง ส.ส. ในพื้นที่จึงมีหัวคะแนนและชักจูงให้คนมาเลือกตนเองได้ง่ายกว่า และด้วยอำนาจเงินตรามหาศาล แต่เป็นเพียงเศษเล็กๆของพรรคไทยรักไทยจึงจูงใจให้ ส.ส. หลายคนยอมสละบัลลังค์เก่า เข้าสู่บัลลังค์ใหม่ซึ่งมีผลประโยชน์กับตนมากมายกว่า...ดังจะเห็นได้จากเงินบริจาคเข้าสู่พรรคและการจัดตั้งการหาเสียงตามที่ต่างๆ พรรคไทยรักไทยสามารถเช่าสนามกีฬาใหญ่ๆ 1 สนาม เพื่อจุคนมาฟังนโยบายได้อย่างสบายๆ แต่พรรคเล็กๆไร้ชื่อเช่น พรรคเกษตรกร***(ขอสงวนนาม) แค่เวทีเล็กๆมาหาเสียงก็ลำบากแล้วเพราะไม่มีเงินทุนในการจัดตั้งการหาเสียง ดังนั้นการเข้ารวมของ สส จากพรรคต่างๆจึงมีความมั่นคงกว่าการอยุ่โดดๆในพรรคที่เล็กกว่า และทำให้พรรคไทยรักไทยสามารถกวาดคะแนนเสียงไปถึง 300 กว่าที่นั่งสิ่งที่ฉลาดกว่านั้นในการหาเสียงคือการชักจูงคนผ่านสื่อต่างๆ เช่นพ่อค้า แม่ค้า แท็กซี่ ซึ่งบุคคลเหล่านี้จะต้องมีการสื่อสารและเห็นเครือญาติพวกพ้องมีความสำคัญ เมื่อคนๆหนึ่งที่เป็นสมาชิกของสังคมนี้บอกกับอีกคนหนึ่งกว่า เลือกพรรคนี้นะดีอย่างนี้แบบนี้ คนที่ฟังก้อจะเชื่อและ กระจายความคิดนี้จากคนสู่คน จากปากสู่ปากเหมือนกับไฟลามทุ่งนั่นละ ดี1คนก้อเหมือนดี5คน ดังนั้น การหาเสียงจากสื่อนี้สามารถทำให้พรรคไทยรักไทยได้รับคะแนนเสียงมากกว่าเพราะเป็นการเล่าปากต่อปากเมื่อผ่านไป 1 ปีกับการเลือกตั้งครั้งที่ 2 ความผิดที่ชัดเจนเริ่มปรากฏขึ้นเป็นรูปธรรม แต่เป็นความผิดที่ไม่สามารถเรียกว่า"เนียน"ได้ ต้องเรียกว่า"ด้าน" เห็นได้จากการขายหุ้นในเครือชินคอปเปอเรชั่นซึ่งถ้าเป็นคนที่มีจริยธรรมโดยปกติทั่วไปหรือเป็นคุณ ถ้าคุณได้กำไรมหาศาลจากการทำธุรกิจ การบริจาคเงินคุณจะทำไหม? คุณเป็นศาสนาพุทธพระพุทธสอนเราเสมอว่าจงทำตัวเสียสละแก่พวกพ้องมีเมตตากรุณาแต่คุณมีเงิน 7หมื่นกว่าล้าน ผมว่าเงินแค่ 1.5หมื่นล้านที่จะตอบแทนเข้าสู่สังคมเพื่อพัฒนาประเทศ จะมีประโยชน์มากกว่าคุณเอาไปลงทุนให้เงินมันงอกเงยขึ้นมาอีกซึ่งกำไร 7หมื่นล้านนี้คุณแบ่งกันใช้ในครอบครัววันละ 5 ล้านใช้ไปอีก 40ปียังไม่หมด แต่สังคมไทยมีคนหาเช้ากินค่ำ ทำงานเพื่อจะได้มีเงินใช้มีรถมอเจอร์ไซด์และมีบ้านเล็กๆอยุ่กับครอบครัวอีกมากมาย คุณไม่เคยนึกถึง คุณอ้างแต่ว่า ผมทำตามระบบประชาธิปไตยที่หุ้นมีความเสี่ยงสูงถึงไม่ต้องเสียภาษีทเวลาขายในตลาดหลักทรัพย์ ผมไม่ว่าที่คุณทำถูกกฏหมาย แต่คุณทำผิดกฏจริยธรรมความเป็นคน ที่ต้องรู้จักแบ่งปันความเท่าเทียมกันในสังคมบ้าง ไม่ใช่มีความคิดทุนนิยมอย่างเดียว เพื่อเงินของตัวเราเอง ที่นี่เมืองไทยครับ ศาสนาพุทธ ทำอะไรต้องอยุ่ใน จารีต ประเพณี และหลักในศาสนา เพื่อจะได้ไม่ถูกผู้คนรุมประชาทัณฑ์ ซึ่งคุณทักษิณได้เป็นกรณีตัวอย่างแล้วการขายหุ้นไม่ได้มีผลกระทบเศรษฐกิจของประเทศอย่างเดียว แต่ยังมีผลต่อความมั่นคงของชาติที่อาจโดนต่างชาติเข้ามาครอบงำ ซึ่งในอนาคตคุณอาจจะเห็นไอทีวีปรับปรุงเป็นแหล่งประชาสัมพันธ์ธุรกิจจากประเทศสิงคโปร์ ในตอนนี้อาจจะไม่แต่ในอนาคตเราเองก้อไม่สามารถบอกได้ว่าจะเป็นอย่างไร เพราะปัจจุบันนี้สิงคโปร์กำลังจะดำเนินการกับไอทีวีแน่นอนการเกิดเหตุการณ์ที่นักวิชาการ และ ปัจเจกบุคคลจำนวนมากออกมาเรียกร้องให้คุณทักษิณลาออกจากตำแหน่งทางการเมืองเนื่องจากปัจจุบันพวกเขาทราบดีกว่า คุณทักษิณใช้ความได้เปรียบทางการเมือง เข้าต่อสู้กับปัญหา ซึ่งใครๆก้อทราบอยุ่แล้วว่า คุณทักษิณมีฐานเสียงจากส.ส.มากมาย การเลือกตั้งสมัยหน้า(วันที่ 2เมษายนนี้)คะแนนจะไม่มีทางเปลี่ยนแปลงแน่นอน มิหนำซ้ำการเปลี่ยนแปลงอาจจะเกิดขึ้นมากอีก โดยที่คนไทยคาดไม่ถึงเช่น ส.ส.พรรคไทยรักไทยได้รับการเลือกตั้งแบบเบ็ดเสร็จ 480เสียง+ โดยที่ถึงเวลานั้นมาประเทศชาติจะไม่มีอะไรเหลืออยุ่ การคงเหลืออยุ่ของการประปา และ การไฟฟ้าในปัจจุบันอันเนื่องมาจาก ในหลวงของเราทรงห่วงใยประชาชนคนไทยโดยการแสดงพระราชดำรัสขอร้องนายกฯรัฐมนตรีและคณะ ทุกคนว่าขอให้เหลือ น้ำและไฟฟ้า ไว้ให้ประชาชนได้ใช้ เพื่อลูกหลานของเรา แต่กลับมีบุคคล คนหนึ่งต้องการขายโดยอ้างเหตุผลว่า ประเทศชาติจะได้เจริญทางเศรษฐกิจ(เจริญแน่นอน รับรองว่าค่าไฟฟ้าจะปรับสูงขึ้นอีก 3 เท่าเหมือนกรณีของอาเจนติน่า) และทุกอย่างยังเหมือนเดิม แค่คนไทยได้เป็นเจ้าของอีก 25% และ 75%รัฐเป็นคนดำเนินนโยบาย ประชาชนส่วนใหญ่อาจไม่ทราบว่า หากรัฐบาลได้ขายการไฟฟ้าแล้ว เงินลงทุนจากหุ้น25%ของประชาชนจะถูกนำมาบริหารโดย75%ของรัฐบาลและได้รับเงินปันผลตามกำไรที่การไฟฟ้าทำได้ หากแต่จะรุ้ไหมว่า75%นั้นรัฐบาลเป็นคนบริหารหากไปไม่รอดมีหนี้สิน รัฐบาลจะเป็นคนรับผิดชอบ ซึ่งคุณทราบไหมว่า หากรัฐบาลบริหารงานผิดพลาดมีหนี้มากกว่ารายได้ก้อสามารถ ขายหุ้น75%ให้กับใครก็ได้ซึ่งหมายความว่า คนที่มาซื้อจะได้เป็นเจ้าของแทน และการไฟฟ้าก้อจะถูกขายอย่างเสร็จสมบูรณ์โดยที่คนที่ไม่รุ้พระราชกฤษฎีกาทราบมาก่อนเลยเมื่อการไฟฟ้าและสื่อสารถูกขายแล้ว รายต่อไปคือการประปาแน่นอน ซึ่งทราบได้เลยว่าสุดท้ายประเทศไทยจะไม่มีอะไรเหลือ นอกจากคำว่า"ยากจน" เพราะเงินที่เป็นกำไรจำนวนมากจะไหลออกจากประเทศทั้งหมด คุณไม่คิดบ้างหรือว่าทำไมทักษิณไม่ขายการไฟฟ้าโดยที่กำหนดสัญญาว่าคนไทยเป็นเจ้าของหุ้นและทรัพย์แต่เพียงผู้เดียว เพราะเค้าได้คำนวณว่าจะมี นอมินีจากต่างชาติมากวาดซื้อหุ้นให้เรียบร้อย ****นอมินีคือบริษัทที่จดทะเบียนในไทยได้สัญชาติไทย แต่เงินลงทุนจากต่างประเทศ *** กล่าวง่ายๆคือให้ต่างชาติเอาเงินมาซื้อ และโดยมากนอมินีไม่ใช่ใครที่ไหน มันก้อคือบุคคลพันธมิตรของชินคอร์ปทั้งหลายนั่นเองซึ่งสุดท้าย กิจการทุกอย่างจะถูกต่างชาติเป็นเจ้าของทั้งหมด แต่ถูกบริหารงานโดยคนไทย เหมือนรัฐบาลหุ่นนั่นแหละครับ บริหารงานเก่งมากมาย แต่ได้กำไรมาก้อเข้ากระเป๋าเจ้าของเงินครับ ไม่ได้เข้ากระเป๋าคนบริหารเลยการเลือกตั้งครั้งต่อไปคาดว่าต้องมีการออกมาเรียกร้องมากกว่านี้ และต้องยุบสภาครั้งที่ 2 หรือไม่อาจเกิดเหตุจลาจลขึ้นแบบ 16ตุลาคมซึ่งเป็นผลมาจากการกุมอำนาจเบ็ดเสร็จของไทยรักไทย และไม่มีใครมาคานอำนาจไว้ เนื่องจากเกรงใจอำนาจเงินของคุณทักษิณ ทั้งฝ่ายบริหาร ฝ่ายนิติบัญญัติ จะถูกรวมใหม่เป็น ฝ่ายภายใต้การควบคุมของทักษิณแบบเบ็ดเสร็จ คุณจะไม่สามารถโต้แย้งอะไรได้ทั้งสิ้น และรับรองจะมีม๊อบก่อจลาจลเพื่อขับไล่คุณทักษิณออก และเหตุการณ์จะบานปลายมากกว่านี้มากคุณทราบหรือไม่ว่าชาวต่างชาติจะเดินทางเข้าออกประเทศไหน เค้าจะดูจากความมั่นคงทางการเมืองของชาตินั้นเป็นหลัก ถ้ามีความมั่นคงและเสถียรภาพมาก ประชาชนก็จะยิ่งมีคุณภาพมาก เพราะแสดงให้เห็นว่ามีการบริหารงานอย่างมีประสิทธิภาพแต่ถ้ามีการเลือกตั้งบ่อยๆ เกิดการยุบสภาชาวต่างชาติจะไม่กล้าท่องเที่ยวหรือลงทุนเลย เช่นรัฐบาลนี้ให้กำไรการค้าขายนี้10%และพอยุบสภารัฐบาลใหม่ให้เพียง 1% เป็นคุณ คุณจะมาลงทุนหรือ ทำให้เกิดการเสียรายได้มากมาย และทำให้เศรษฐกิจของประเทศนั้นแย่ลง เช่น ประเทศไทยในปัจจุบันตั้งแต่ช่วงยุบสภาที่ผ่านมา ตลดาไนท์บาร์ซ่าที่เชียงใหม่มีนักท่องเที่ยวน้อยลงมาก ขาดรายได้มหาศาลอันเนื่องมากจากความกังวลของสถานะทางการเมืองของนักท่องเที่ยว ไม่เชื่อคุณสามารถมาดูได้ครับส่วนการออกมาเรียกร้องของคุณสนธิ และกลุ่มพันธมิตรผมเห็นว่าเป็นสิ่งที่ดี แต่สิ่งที่ไม่ควรกระทำอย่างยิ่งคือการปลุกปั่นและระดมความคิดว่าคุณทักษิณขายชาติ เพราะมันสร้างความแตกแยกให้กับประชาชนออกเป็นหลายฝ่าย ทำให้เกิดความแตกแยกในบ้านเมือง ทำให้คนเข้าใจผิด การเรียกร้องอำนาจประชาธิปไตยคุณสามารถทำได้โดยการรวมตัวเรียกร้องอย่างสงบ ไม่ใช่ออกมาจัดรายการต่างๆ แล้วกล่าวหาเรื่องราวมากมาย ซึ่งมันไม่ใช่การเรียกร้องแล้ว เค้าเรียกว่าการยุยงให้คนหลงเชื่อ และเกิดความคิดแตกแยก อีกทั้งพรรคประธิปปัตย์เคยลงเป็นรัฐบาลมาแล้วหลายครั้งแต่ไม่เคยมีผลงานเป็นรูปธรรมมีแต่ "เรื่องนี้ผมยังไม่ได้รับรายงานเลย" ผมได้ยินคำนี้จากคุณชวนบ่อยมาก ทำให้พรรคประชาธิปปัตย์ไม่ค่อยมีความน่าเชื่อ ถึงแม้จะมีฐานเสียงทางภาคใต้มากกว่าพรรคไหนๆก็ตามทั้งหมดผมยังไม่สามารถสรุปอะไรได้ในตอนนี้ว่าแต่ละคนเป็นอย่างไร เพราะแต่ละคนในวงการเมืองไม่มีความน่าเชื่อถือเลย ทั้งคุณจำลอง คุณสนธิ และ 3พรรคฝ่ายค้าน แต่ละคนจ้องจะล้มรัฐบาลเพื่อผลประโยชน์แก่ตนเองทั้งสิ้น ดังนั้นผมจึงอยากขอให้ทุกคน ถ้าคุณจะไปเลือกตั้งคุณควรศึกษาเรื่องการเมืองอย่างชัดเจน อย่าถูกชักจูงหรือ เลือกเพราะไม่รุ้จะเลือกใครดี ปัญหาการเมืองมีทางออกเสมอผมคิดว่าถ้าใครไม่อยากเลือกควรไปกา งดออกเสียงให้มากที่สุด แล้วมาวัดกันว่า งดออกเสียงกับ ไทยรักไทย ใครจะมากกว่ากัน และประชาธิปไตยจะดำเนินการจัดสรรคนที่เหมาสมกับการทำงานเอง เชื่อผมว่าในอนาคตต้องมีคนที่เหมาะสมกับการบริหารงานประเทศไทยต่อไปแน่นอน....ป.ล.ใครมีความคิดเห็นอย่างไรกรุณาแสดงควมคิดเห็นให้ตรงประเด็นกับกระทู้นี้ ด้วยความสุภาพและมีมารยาทด้วยครับ ขอบคุณมากที่เข้ามาอ่าน
-->
โดย : คนเชียงใหม่ อีเมล์ : jjhzam@hotmail.com วันที่ : 2006-03-05 21:46:09

1 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

เป็นบทความที่อ่านแล้วรู้อะไรดี ๆ ขึ้นอีกเยอะ อยากให้พี่หาบทความเกี่ยวกับรัฐบาลและพันธมิตรมาให้อ่านบ้างจัง